References

โรงพยาบาลรอยัลโฮบาร์ต

ในปี ค.ศ. 2020 โรงพยาบาลรอยัลโฮบาร์ต ตั้งอยู่ในเมืองโฮบาร์ต เมืองหลวงของรัฐแทสเมเนีย เป็นหนึ่งในโครงการโรงพยาบาลยุคใหม่ของออสเตรเลีย แนวคิดการออกแบบโดยบริษัทสถาปนิก Lyons Architecture จากเมืองเมลเบิร์น ยึดหลักการ Salutogenesis (แนวคิดที่มุ่งสร้างสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี)

อาคารโรงพยาบาลชุมชนที่ล้ำสมัยแห่งนี้มีการออกแบบให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างใกล้ชิด โดดเด่นด้วยพื้นผิว สีสัน งานศิลปะ และทิวทัศน์ที่ช่วยสร้างความรู้สึกสงบผ่อนคลาย ทุกองค์ประกอบถูกออกแบบเพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคนที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ป่วย ครอบครัว และบุคลากรทางการแพทย์

สิ่งแวดล้อมส่งผลต่อสุขภาพ

สุขภาพพัฒนาได้อย่างไร? และจะส่งเสริมสุขภาพในทางปฏิบัติได้อย่างไร? ประเด็นนี้คือหัวใจของแนวคิด Salutogenesis ซึ่งมุ่งเน้นการจัดเตรียมทรัพยากรและโอกาสที่จำเป็น เพื่อช่วยให้ผู้คนมุ่งไปสู่สุขภาพที่ดีแทนที่จะจดจ่อกับความเจ็บป่วย

อลัน ดิลานี (Alan Dilani) แพทย์ สถาปนิก และผู้ก่อตั้ง International Academy for Design and Health อธิบายไว้ในการสัมภาษณ์เมื่อปี 2021 กับสื่อออนไลน์สวิส Ticino Scienza ว่า
“Salutogenesis เป็นปรัชญาที่สามารถประยุกต์ใช้ได้ในหลายด้าน ตั้งแต่สถาปัตยกรรมเมืองไปจนถึงอาคารที่เราใช้ทำงานและอยู่อาศัย เพื่อสร้างปัจจัยที่ทำให้รู้สึกดี ช่วยเสริมสุขภาพและลดความเครียด”

ดิลานียังกล่าวต่อว่า จึงจำเป็นต้องทำให้การออกแบบพื้นที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานพยาบาล โรงเรียน หรือพื้นที่สาธารณะ มีลักษณะ ฟื้นฟูได้ (regenerative) อบอุ่น (cosy) และผ่อนคลาย (restorative) รวมถึงกระตุ้นสมองให้สามารถรับมือกับความเครียดและความกดดันในชีวิตประจำวัน

ดิลานีได้พัฒนา ทฤษฎีการออกแบบเชิง Salutogenic ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการออกแบบโครงการด้านสุขภาพทั่วโลก เพื่อส่งผลเชิงบวกต่อสุขภาพกายและความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์

ความกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม

ด้านหน้าของโรงพยาบาลชุมชนแห่งใหม่ Royal Hobart Hospital ในรัฐแทสเมเนีย ถูกออกแบบให้เชื่อมโยงกับสิ่งแวดล้อมรอบข้าง Lyon อธิบายว่า:
“ไม่เพียงแต่สีที่เลือกใช้จะสะท้อนถึงภูมิทัศน์โดยรอบเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวัสดุที่ใช้ เช่น แกรนิต หินทราย ไม้แบล็กวูด และไม้โอ๊กแทสเมเนีย ซึ่งล้วนมาจากท้องถิ่นเช่นกัน ช่องหน้าต่างรูปสี่เหลี่ยมและรูปตัว H รวมถึงการออกแบบฟาซาด ได้แรงบันดาลใจจาก Rajah Quilt สิ่งทอปักลวดลายที่ทำขึ้นในปี ค.ศ. 1841 โดยนักโทษหญิงระหว่างการเดินทางจากอังกฤษมายังแทสเมเนียบนเรือคอนวิกต์ Rajah Great Britain”

ช่างติดตั้งได้ทาสีผิวผนังขนาด 3,000 ตารางเมตรด้วย Concretal glaze ของ KEIM โดยเลือกใช้เพียงสีเดียว คือ สีดำเข้มพิเศษ เหตุผลที่เลือกใช้แร่เคลือบผิวชนิดนี้ เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ KEIM ทุกชนิด ก็คือคุณสมบัติเด่นด้าน ความคงทนต่อรังสี UV และความคงทนของสี Eckl ผู้จัดการฝ่ายขายส่งออกของ KEIM กล่าวเสริม

ความเป็นส่วนตัวสำหรับเยาวชน

ที่โรงพยาบาล Royal Hobart สถาปนิกให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับแผนกสตรีและเด็ก Corbett Lyon อธิบายว่า:
“เราออกแบบห้องคลอดให้มีบรรยากาศที่ไม่เหมือนโรงพยาบาลทั่วไป เพื่อมอบความรู้สึกผ่อนคลายและเป็นส่วนตัวแก่ผู้ป่วย”

นอกจากนี้ ยังมีการจัดสรรหอผู้ป่วยแยกสำหรับวัยรุ่นโดยเฉพาะ ซึ่งสะท้อนถึงแนวทางที่เน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง ปกติแล้วกลุ่มอายุนี้มักถูกละเลย มักจะถูกรวมไว้ในหอผู้ป่วยเด็กหรือย้ายไปยังหอผู้ป่วยผู้ใหญ่ แต่ที่ Royal Hobart Hospital มีโรงเรียนภายในสำหรับผู้ป่วย ห้องกิจกรรม ห้องป้องกันพิเศษสองห้องที่วัยรุ่นได้รับการดูแลเฉพาะบุคคล รวมทั้งพื้นที่ทางเข้าออกสู่บริเวณกลางแจ้งของตนเอง เพื่อช่วยส่งเสริมกระบวนการฟื้นฟู

การออกแบบที่ประณีตในทุกรายละเอียด

รายละเอียดอื่น ๆ ภายในโรงพยาบาล Royal Hobart ที่ช่วยยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีของบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย และผู้มาเยือน ได้แก่ การใช้สีที่สดใส การเปิดรับแสงธรรมชาติมากขึ้น และการมองเห็นภูมิทัศน์ที่สวยงามของเมืองโฮบาร์ต นอกจากนี้ ยังมีการเลือกสรรงานศิลปะ การเข้าถึงสวนบนดาดฟ้า และเทคโนโลยีแบบอินเทอร์แอกทีฟ ที่ช่วยสร้างสิ่งเบี่ยงเบนเชิงบวกเพื่อลดความวิตกกังวลของผู้ป่วย

การออกแบบที่ใส่ใจยังปรากฏในรายละเอียดเล็ก ๆ เช่น โคมไฟเพดานหลากสีในโถงแผนกเด็ก ซึ่งจำลองบรรยากาศของแสงออโรร่าออสตราลิส หรือแสงใต้ และสื่อถึงธีมของแผนกเด็กคือ “การเดินทางสู่แอนตาร์กติกา”

การออกแบบโดยรวมทั้งหมดมีลักษณะโดดเด่นด้วยพื้นผิวที่สงบตา โทนสี งานศิลปะ และทิวทัศน์—ทุกองค์ประกอบถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ตอบโจทย์ทุกคนที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ป่วย ญาติ และบุคลากร และเหนือสิ่งอื่นใดคือเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูสุขภาพของผู้ป่วยให้ดีที่สุด ตามแนวคิด “Salutogenesis” (การสร้างเสริมสุขภาวะ)