ปัญหาสีเป็นผงฝุ่นขาว ( Chalking )
ผลิตภัณฑ์สีไทยจรัส
KEIM Silicate Paints
เฮอโมซ่า
อาร์คัส
คุณอาจรู้สึกไม่พอใจเมื่อเจอสีทาบ้านเป็นผงฝุ่นขาวที่ไม่น่ามอง เราเข้าใจความสำคัญของการให้บ้านของคุณสวยงามและดูเป็นระเบียบ และเรามีสีที่จะช่วยให้บ้านของคุณกลับมาสดใสและน่าอยู่อีกครั้ง สีที่เรามีเป็นสีทาที่ช่วยปกป้องผนังจากการเกิดผงฝุ่นขาว ทำให้คุณมั่นใจได้ในความสวยงาม ของสี KIEM เป็นคำตอบที่คุณต้องการเพื่อความสะอาดและความสวยงามที่ทรงพลัง
สาเหตุของปัญหา
- การเลือกใช้วัสดุที่ไม่เหมาะสม : การเลือกใช้สีทาที่ไม่เหมาะสมกับพื้นผิวของบ้านอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหา Chalking โดยเฉพาะการใช้สีทาที่มีความหนาและสูตรที่มีส่วนผสมของวัสดุที่ไม่ดี
- อากาศและสภาพแวดล้อม : สภาพแวดล้อมและสภาพอากาศอาจมีผลต่อความคงทนของสีทาบ้าน เช่น แสงแดดแรง เกิดฝนตกบ่อย หรือมีความชื้นสูง
- ความเสียหายจากการใช้งาน : การใช้งานอาจทำให้เกิดความสัมพันธ์ของสีทากับสภาพแวดล้อม ทำให้เกิดปัญหา Chalking ได้
ผลที่ตามมา
- การเสื่อมสภาพของผนัง : การเกิดปัญหา Chalking ส่งผลให้ผนังบ้านสูญเสียความสวยงามและมีลักษณะที่ไม่ดีตามมา เนื่องจากผิวของสีทาจะเปลี่ยนเป็นผงฝุ่นขาวที่ไม่เป็นเรียบ และอาจส่งกลิ่นหรือมีความกัดกร่อน
- ลดความทนทานของผนัง : การเสื่อมสภาพของผนังที่เกิดขึ้นจากปัญหา Chalking อาจทำให้ผนังบ้านไม่สามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้ดีเท่าที่ควร ซึ่งอาจส่งผลต่อความทนทานและความเชื่อถือในการใช้งานของผนังในระยะยาว
การแก้ปัญหา
1. การเลือกใช้สีที่มีคุณภาพ : ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเมื่อคุณได้รู้จัก สีที่ผลิตจากแร่ใยหินธรรมชาติและผสมเข้ากับสารเคลือบที่ถูกสังเคราะห์มาจากน้ำกระจก โดยมาพร้อมกับคุณสมบัติในการแทรกซึมเข้าสู่เนื้อสีที่ดีเยี่ยม สีจึงมีอายุยาวนาน ไม่ซีดจาง
2. เลือกใช้สีที่มีคุณภาพดี : การเลือกใช้สีที่มีคุณภาพดีและเหมาะสมสำหรับสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น สีที่มีส่วนผสมของพิกเมนต์น้อยลงหรือมีสารเคมีที่ทนต่อสภาพแวดล้อม เพื่อลดโอกาสในการเกิดปัญหา
3. การเตรียมพื้นผิวอย่างถูกต้อง : การเตรียมพื้นผิวก่อนการทาสีอาจมีผลในการลดปัญหา
4. โดยการทำความสะอาดพื้นผิวอย่างถูกต้องและใช้ตัวช่วยที่เหมาะสม เช่น ปูนขาวหรือสารเคมีที่ช่วยให้สีติดทนดีกว่า
5. การทาสีที่เหมาะสม : การทาสีในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เช่น ในช่วงเวลาที่มีแสงแดดไม่ร้อนจัดหรือในช่วงที่ความชื้นอาจไม่สูงมาก เพื่อลดโอกาสในการเกิด
6. การดูแลรักษาสี : การดูแลรักษาสีโดยการทำการเจือจางสีใหม่หรือการใช้สารเคมีที่ช่วยป้องกันการลอกลอกของสี เช่น การใช้ครีมหรือสารป้องกันแสงแดดที่มีส่วนผสมป้องกันการแดดและช่วยให้สีสามารถทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดีขึ้น
2. เลือกใช้สีที่มีคุณภาพดี : การเลือกใช้สีที่มีคุณภาพดีและเหมาะสมสำหรับสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น สีที่มีส่วนผสมของพิกเมนต์น้อยลงหรือมีสารเคมีที่ทนต่อสภาพแวดล้อม เพื่อลดโอกาสในการเกิดปัญหา
3. การเตรียมพื้นผิวอย่างถูกต้อง : การเตรียมพื้นผิวก่อนการทาสีอาจมีผลในการลดปัญหา
4. โดยการทำความสะอาดพื้นผิวอย่างถูกต้องและใช้ตัวช่วยที่เหมาะสม เช่น ปูนขาวหรือสารเคมีที่ช่วยให้สีติดทนดีกว่า
5. การทาสีที่เหมาะสม : การทาสีในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เช่น ในช่วงเวลาที่มีแสงแดดไม่ร้อนจัดหรือในช่วงที่ความชื้นอาจไม่สูงมาก เพื่อลดโอกาสในการเกิด
6. การดูแลรักษาสี : การดูแลรักษาสีโดยการทำการเจือจางสีใหม่หรือการใช้สารเคมีที่ช่วยป้องกันการลอกลอกของสี เช่น การใช้ครีมหรือสารป้องกันแสงแดดที่มีส่วนผสมป้องกันการแดดและช่วยให้สีสามารถทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดีขึ้น
“การป้องกันและแก้ไขปัญหา Chalking จะช่วยให้พื้นผิวที่ทาสีมีการดูแลและคงความสวยงามได้ยาวนานอย่างยั่งยืนในระยะยาว”
เคล็ดลับเพื่อคนรักบ้าน
-
VOCs คืออะไร?
-
ปัญหาสีเป็นเม็ดฟองอากาศ
-
ปัญหาสีเป็นผงฝุ่นขาว
-
ปัญหาสีซีดเหลือง
-
ปัญหาสีซีดจาง
-
ปัญหาสีเป็นรอยแตก
-
ปัญหาสีที่ผนังแตกหลุดล่อน
-
ปัญหาสีเกิดเชื้อรา
-
ปัญหาสีเป็นรอยตัดจากแปรง
-
ปัญหาสีไม่ปกปิดพื้นผิว
-
ไอเดียตกแต่งห้องครัวและห้องทานข้าว
-
ไอเดียตกแต่งห้องทำงาน
-
ไอเดียตกแต่งห้องนั่งเล่น
-
ไอเดียตกแต่งห้องนอน
ข่าวสารองค์กร
-
Opps, No posts were found.
CSR : กิจกรรมเพื่อสังคม
โปรโมชั่นและการตลาด